ในตอนที่ 8 ผมได้ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) ในภาพรวม โดยการตั้งคำถามเบื้องต้นในภาพระดับบนอย่างกว้าง ๆ เพียงเพื่อให้ข้อสังเกตและข้อคิด รวมทั้งมุมมองที่เกี่ยวกับหลักการ นโยบาย กรอบและขอบเขตของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลว่า เราควรคำนึงถึงปัจจัยผลักดันของผู้มีส่วนได้เสีย ที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมของการกำกับและกระบวนการบริหาร รวมทั้งวิวัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และองค์ประกอบอื่น ๆ ที่จะมีผลต่อนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล ซึ่งก็ได้กล่าวมาแล้วตั้งแต่ตอนที่ 1 – 8 ในบางมุมมองที่ผมเข้าใจ ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะมีหลายมุมมองหรือหลายมิติที่ผมอาจจะมองข้ามไป และไม่ได้กล่าวถึงมากนัก อย่างไรก็ดี ตามความเห็นของผม หน่วยงานภาครัฐที่ดำเนินการพัฒนาหมวดหมู่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา Digital Economy ที่ผ่านมาก็ได้มีการพัฒนาองค์ประกอบและปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่จำเป็นในการขับเคลื่อน Digital Economy ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเข้มแข็งอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี ในมุมมองของผู้ตรวจสอบทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมุมมองของการตรวจสอบการกำกับ และการบริหารความเสี่ยง รวมทั้งการควบคุมที่สนองตอบความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียในการสร้างคุณค่าเพิ่ม ให้เป็นไปตามหลักการของการกำกับดูแลกิจการที่ดี หรือ Governance ยุคใหม่ที่มีความหมายและคำจำกัดความแตกต่างจากหลักการของ Governance ในอดีตเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะมีวัตถุประสงค์หลักในเรื่องของ Governance ที่ใกล้เคียงกันคือ การสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับผู้มีส่วนได้เสีย ที่มีองค์ประกอบหลัก ๆ ของ Governance ก็คือ การสร้างความมั่นใจอย่างสมเหตุสมผลว่า นโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล หรือ Digital Economy ประเทศจะได้รับผลประโยชน์ หรือได้ดุลยภาพกับการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม และการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่มีรายละเอียดค่อนข้างมากที่ผู้กำกับและบริหารเศรษฐกิจดิจิตอลตามนโยบายไม่ควรเน้นเรื่องรูปแบบมากกว่าสาระ ที่ต้องพิสูจน์ได้ว่า หน่วยงานกำกับมีหลักการในการก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิตอลที่ชัดเจนและสอดคล้องกับกรอบการดำเนินงาน ให้เป็นไปตามนโยบายที่กำหนด ซึ่งในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก.ค. 2558 ผมได้ยินท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้พูดในการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลนั้น ควรจะมีการสื่อสารและสร้างความเข้าใจที่ตรงกันของความหมายคำว่า Digital Economy ซึ่งแน่นอนว่า ท่านคงหมายความไปถึง กระบวนการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอลให้เป็นรูปธรรม ที่เห็นภาพ ๆ เดียวกัน ให้คำจำกัดความที่ตรงกัน มีทิศทางในการพัฒนาที่ชัดเจน มีการกำหนดกรอบ ผลประโยชน์ที่จะได้รับจากเศรษฐกิจดิจิตอลในมิติและบริบทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในแบบบูรณาการ ตามหลักการของการกำกับดูแลกิจการที่ดียุคใหม่ ที่บทความนี้ได้ย้ำในหลายเรื่องตามที่กล่าวมาแล้วในตอนต้น ๆ การถ่ายทอดวิสัยทัศน์จาก Digital Economy มาสู่กลยุทธ์ หรือยุทธศาสตร์ หรือวิธีการที่นำไปสู่ความสำเร็จเศรษฐกิจดิจิตอลในตอนที่ 9 นี้ ผมจึงใคร่เน้นไปยังเรื่องกลยุทธ์ของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล เพราะจากวิสัยทัศน์ การพัฒนาประเทศในทุกมิติและในทุกบริบทต่อจากนี้เป็นต้นไป จะเกี่ยวข้องกับดิจิตอลหรือข้อมูล สารสนเทศ ข่าวสารที่มาจากการประมวลข้อมูลหรือการรวบรวมข้อมูลจากการประมวลผลทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือที่เกี่ยวข้องกับสารสนเทศที่มาจากเทคโนโลยีดิจิตอล และกระบวนการกำกับและการบริหารที่ผู้เกี่ยวข้องทุกระดับจะต้องเข้าใจถึงความเสี่ยง ผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการมี การใช้ ข้อมูลที่ถูกต้อง มีคุณภาพ มีมาตรฐานในการบริหารงานและการจัดการ ให้เป็นไปตามกรอบการดำเนินงานทางด้านเศรษฐกิจดิจิตอล หรือทางธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องสำหรับการกำกับดูแลและการบริหารจัดการไอทีระดับประเทศและระดับองค์กร โดยมีการปฏิบัติงานที่ข้ามสายงาน ข้าวหน่วยงาน ข้ามประเทศ ซึ่งจะไม่มีพรมแดนกีดขวางต่อความต้องการของผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ การที่ภาครัฐในฐานะผู้กำกับและผู้ผลักดันสำคัญในโครงการเศรษฐกิจดิจิตอล จึงเห็นควรประเมินความเหมาะสมของกลยุทธ์ Digital Economy – DE ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันว่ามีความเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม สอดคล้องกับความต้องการของผู้มีส่วนได้เสีย มีมาตรฐาน และกรอบการดำเนินงานที่สัมพันธ์กับเป้าหมายระดับประเทศตามนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล ที่มีการถ่ายทอดไปยังเป้าหมายเกี่ยวกับไอที และกระบวนการทางไอทีที่แน่นอนว่า จะต้องถ่ายทอดไปยังปัจจัยเอื้อต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดความสำเร็จ ตามโครงการและนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลที่ควรกำหนดเป็นกรอบการดำเนินงานที่ชัดเจน และควรกำหนดบทบาท กิจกรรม และความสัมพันธ์ของการกำกับดูแล ซึ่งควรระบุว่าใครหรือหน่วยงานใดมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลและกระบวนการมีส่วนร่วมนั้น มีส่วนร่วมอย่างไร และมีบุคคลใด หรือใคร ควรทำอะไร และควรมีการปฏิสัมพันธ์กันอย่างไร ในทุกระดับของกระบวนการกำกับดูแลกิจการที่ดี ภายใต้กรอบและขอบเขตของระบบงานทางด้าน Digital Economy สำหรับการกำกับดูแลและการบริหารจัดการไอที ตามวรรคสุดท้ายที่ผมได้กล่าวนั้น หากท่านผู้อ่านได้มีโอกาสดูภาพที่ผมได้นำเสนอไปในตอนต้น ๆ จะอธิบายได้ชัดเจนถึงบทบาทหน้าที่ กิจกรรม และความสัมพันธ์ของผู้มีส่วนได้เสียหลัก ซึ่งในที่นี้ก็คือได้แก่ รัฐบาลที่จะมอบหมายงานให้หน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง ที่อาจจะมีหลายหน่วยงานที่จะต้องทำงานผสมผสานกันในแบบบูรณาการ เพื่อกำหนดทิศทางให้ผู้บริหารแต่ละหน่วยงานของผู้กำกับภาครัฐ และ/หรือภาคเอกชน สั่งการและวางแนวทาง เพื่อการดำเนินงานและปฏิบัติตามนโยบาย กลยุทธ์ คำสั่ง ระเบียบวิธีการปฏิบัติ มาตรฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อรายงานกลับไปยังผู้บริหารที่จะต้องเฝ้าติดตามผลการดำเนินงาน ในแต่ละคาบเวลาที่กำหนด และส่ง/หรือรายงานไปยังหน่วยงานกำกับดูแลที่รับผิดชอบในผลงาน ตามโครงการและแผนงานที่เกี่ยวข้องกันอย่างเป็นระบบ มีระเบียบ และมีแบบแผน ซึ่งตอนนี้ ผมเข้าใจว่า หลักการบริหารโครงการ Digital Economy และแผนงานต่าง ๆ ที่แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะมีการทบทวน ประเมินผล สั่งการ เฝ้าติดตาม เพื่อให้แผนงานและโครงการต่าง ๆ เป็นไปตามเป้าหมายและเวลาที่กำหนด และรายงานผลต่อไปยังรัฐบาล ซึ่งพิจารณาได้ว่า เป็นเจ้าของโครงการและเป็นผู้มีส่วนได้เสียหลัก ที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแลโครงการและนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามที่ต้องการในคาบเวลาที่เหมาะสม หากขาดกลยุทธ์ที่เหมาะสม และขาดการกำกับดูแลที่ดีที่มีมาตรฐาน มีหลักการ มีนโยบาย และกรอบการดำเนินงานที่ชัดเจนที่สัมพันธ์กับการกำหนดกลยุทธ์ที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง นโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลก็น่าจะมีความเสี่ยงที่ประเทศหรือรัฐบาลไม่อาจยอมรับได้ ถึงตอนนี้ ผมเข้าใจว่า การกำหนดระดับความเสี่ยงหรือผลสัมฤทธิ์ที่ไม่ได้ผลตามเป้าหมาย เช่น ขาดการควบคุม การตรวจสอบ การกำกับ การจัดการแบบบูรณาการ และขาดการติดตามอย่างแท้จริง ซึ่งพิสูจน์ได้จากการที่ผู้กำกับดูแล ไม่ได้มีการพิจารณาระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ต่อการบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามโครงการนี้ในแต่ละกระบวนการที่ชัดเจน และอื่น ๆ ตามที่ได้กล่าวข้างต้น คำถามเพื่อประเมินประสิทธิภาพของกลยุทธ์ในการเข้าสู่ Digital Economy บางมุมมองดังนั้น ผมจึงมีคำถามชวนคิด ชวนตรอง ในเรื่องการประเมินประสิทธิภาพของกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอลในบางมุมมองต่อไปนี้ กลยุทธ์ด้านการกำกับดูแล DE
กลยุทธ์ด้านการบริหาร
– การจัดวางแนวทาง การจัดทำแผนและจัดระบบ ตัวอย่างบางส่วนได้แก่ การบริหารจัดการกลยุทธ์ การบริหารสถาปัตยกรรมทางด้าน DE การบริหารจัดการนวัตกรรม การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล การบริหารจัดการคุณภาพ การบริหารความเสี่ยง การบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัย เป็นต้น – การจัดสร้าง จัดหาและการนำไปใช้ ตัวอย่างกลยุทธ์ในข้อนี้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการบริหาร (Process) บางเรื่องได้แก่ การบริหารจัดการโครงการและชุดโครงการ DE การบริหารจัดการข้อกำหนดที่ต้องการ การบริหารจัดการเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการบริหารไอทีและDE ให้สัมฤทธิ์ผล การบริหารจัดการความรู้และสินทรัพย์ การบริหารองค์ประกอบของระบบงาน เป็นต้น – การส่งมอบ บริการ และสนับสนุน ตัวอย่างกลยุทธ์ด้านนี้ก็คือ การกำหนดระบบบริหารจัดการการปฏิบัติงาน การบริหารจัดการคำร้องขอบริการในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การบริหารจัดการปัญหา การบริหารจัดการดำเนินธุรกิจที่ต่อเนื่อง การบริหารและบริการทางด้านความมั่นคงปลอดภัย การบริหารจัดการควบคุมกระบวนการทางด้านเป้าประสงค์ของ DE และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง – การเฝ้าติดตาม วัดผล และการประเมิน ตัวอย่างในเรื่องนี้ได้แก่ วิธีการประเมินประสิทธิภาพ และความสอดคล้องในการดำเนินงานทางด้านไอที และที่เกี่ยวข้องกับ DE และเรื่องอื่น ๆ รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้อง การเฝ้าติดตาม วัดผล ประเมินผลระบบการควบคุมภายใน การประเมิน การติดตามวัดผลการปฏิบัติตามข้อกำหนดจากหน่วยงานภายนอก เป็นต้น
– หลักการ นโยบาย และกรอบการดำเนินงาน – กระบวนการ – โครงสร้างการจัดองค์กร – วัฒนธรรม จริยธรรม และพฤติกรรม – สารสนเทศ – บริการ โครงสร้างพื้นฐาน และระบบงาน – บุคลากร ทักษะ และศักยภาพ เศรษฐกิจดิจิตอลในตอนที่ 9 ที่ผมได้พูดถึงเรื่องกลยุทธ์ของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลตอนนี้ ผมมีความเห็นว่า เป็นตอนที่มีความสำคัญยิ่งยวดที่จะก่อให้เกิดความสำเร็จของโครงการและนโยบายทางด้าน DE เพราะกลยุทธ์เป็นวิธีการนำไปสู่ความสำเร็จตามนโยบายและเป้าหมายทางด้าน DE ดังนั้น โครงการและนโยบายทางด้าน DE อาจเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของการพัฒนาเศรษฐกิจในยุคดิจิตอล ซึ่งอาจอธิบายต่อไปได้ว่า พันธกิจ – วิสัยทัศน์ – นโยบาย เป็นรูปแบบในการก้าวสู่ความฝันที่จะไปถึงตามเป้าประสงค์ที่ดีทางด้านเศรษฐกิจยุคดิจิตอล แต่หากประเทศหรือองค์กรกำหนดกลยุทธ์ทางด้านเศรษฐกิจดิจิตอลไม่เหมาะสม ทั้งในมุมมองการกำกับดูแล (Governance – Value Creation) และในมุมมองการบริหาร (Management) ที่มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดจะไม่สามารถทำให้โครงการและแผนงานต่าง ๆ ตามนโยบาย DE บรรลุความสำเร็จอย่างมีคุณภาพได้ หากท่านเป็นผู้ตรวจสอบ หรือเป็นหน่วยงานที่ได้รับการตรวจสอบ ท่านลองทำการประเมินตนเองเพื่อการควบคุมความเสี่ยงในแบบ CSA – Control Self Assessment ซึ่งอาจทำได้หลายรูปแบบตามที่ผมได้เขียนไว้ใน http://www.itgthailand.com ในหมวดอื่น ๆ แล้วนั้น ก็จะทำให้เกิดข้อคิด ชวนตรอง ในการกำกับดูแลและการบริหารโครงการ Digital Economy ได้ตามสมควรนะครับ |