บริษัทในเครือ ได้แก่ ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม, พีทีที โกลบอล เคมิคอล, ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก, พีทีที เอเชีย แปซิฟิค ไมนิ่ง และ พีทีที กรีน เอ็นเนอร์ยี่ ประวัติ[แก้]ปตท. เดิมชื่อ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เป็นรัฐวิสาหกิจ ก่อตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2521 ซึ่งประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2521 และมีผลบังคับใช้ในวันถัดมา (29 ธันวาคม พ.ศ. 2521) ในสมัยรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เกิดจากควบรวมองค์การเชื้อเพลิง (ซึ่งแยกออกมาจากแผนกเชื้อเพลิงของกรมการพลังงานทหารเมื่อปี พ.ศ. 2503) กับองค์การแก๊สธรรมชาติแห่งประเทศไทยภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม ปตท. เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและยังเป็นบริษัทเดียวจากประเทศไทยที่ติดอันดับ Fortune Global 500 Companies บริษัทอยู่ในอันดับที่ 81 จาก 500 อันดับแรกใน ฟอร์จูน 500 และอันดับที่ 180 ใน Forbes 2000 การเงิน[แก้]สำหรับปี พ.ศ. 2559 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานรายได้ 1,737,148 ล้านบาท กำไรสุทธิ 94,609 ล้านบาท สินทรัพย์ 2,232,331 ล้านบาท และส่วนของเจ้าของรวม 762,948 ล้านบาท ในสิ้นปี 2565 ปตท. เป็นรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้แผ่นดินสะสมสูงสุด โครงสร้างผู้ถือหุ้น[แก้]บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เริ่มแปรรูปเป็นบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2544 มีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2 พันล้านหุ้น โดยมี กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เริ่มซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อ 6 ธันวาคม ของปีเดียวกัน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่[แก้]
เหตุการณ์สำคัญ[แก้]อาคารนิทรรศน์พรรณพฤกษา จัดแสดงดอกทิวลิปโดยใช้พลังงานจากความเย็นก๊าซ LNG มาใช้ในการควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนเพาะปลูก ตั้งอยู่ในหนองแฟบ จังหวัดระยอง
|